[Spoiler!McReid fic] Tachycardia

Vampyr fiction

Pairing : Jonathan Reid/Geoffrey McCullum – เป็นแมครี้ดที่เกย์น้อยลงไปอีก

Warning : **Spoiler / BL? / One-shot / Fluff?? / Mostly Jonny’s POV

ตอนต่อจากเอนทรี่ที่แล้ว

.

58969

.

แมคคัลลัมยืนอยู่หน้าโรงพยาบาล

.
กลิ่นเลือดกับยาฆ่าเชื้อคละคลุ้งไปทั่ว แต่นับว่ายังดีที่ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าของศพปนมาด้วย เขารู้ว่าในสถานการณ์แบบนี้มันยากแค่ไหนที่จะต้องประคับประคองชีวิตคนท่ามกลางโรคระบาด และนั่นแหละ… รวมทั้งท่ามกลางพวกตัวดูดเลือด

ถ้าถามว่ามาที่นี่ทำไม…. เขาไม่ได้อยากมาหรอกนะ แต่เพราะมีคนท้าไว้ต่างหาก ถ้าพูดให้ถูกคือไอ้ปลิงนั่นท้าไว้

การกลับมาที่นี่อีกครั้งทำให้รู้สึกแย่เล็กน้อย แมคคัลลัมนึกถึงคืนที่พากองกำลังบุกโรงพยาบาล คืนนั้นที่จับตัวสวานซีไป และคืนนั้นที่เขาพ่ายแพ้ให้กับแวมไพร์ชั่วร้ายนั่นที่แฝงตัวอยูในคราบหมอ

เอ จริงๆก็ไม่ได้ชั่วขนาดนั้นหรอกมั้ง แต่เห็นหน้าแล้วแข้งขากระตุกจนอยากเตะก้านคอสักรอบเฉยๆ

ช่างเถอะ ก็มาแล้วนี่ ไปหาหน่อยแล้วกัน

.

.
😾😾😾😾😾😾

.
“ไง ไอ้หนอนหนังสือไร้กระดูก”

.

แมคคัลลัมแวะเข้าไปทักทายสวานซี ผอ.โรงพยาบาลวัยกลางคนหรี่ตามองเขา

“พูดดีๆหน่อยแมคคัลลัม ผมยังไม่ให้อภัยเรื่องที่คุณทำไว้หรอกนะ”

แมคคัลลัมมองเฉไฉไปทางอื่น ไม่สนเสียงบ่นแกมด่าของสวานซี ก่อนจะเบนสายตากลับมาพิจารณาคนตรงหน้า เขามั่นใจว่าตนและลูกน้องซ้อมเอ็ดการ์ สวานซีอย่างหนักจนแทบไม่น่าจะยืนได้ด้วยซ้ำ แต่สวานซีตอนนี้ดูแข็งแรงดีทั้งที่เวลาก็ผ่านไปได้ไม่นาน แมคคัลลัมมุ่นคิ้ว เขาจ้องหน้าอีกฝ่ายเพราะรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ

.

เดี๋ยวนะ

ตาไง

ตาของสวานซีเป็นสีแดงก่ำ

พระเจ้า

.

“สวานซี หรือว่าแก….กับรี้ด….”

“อา ใช่ ผมเป็นเหมือนเขาแล้ว แมคคัลลัม”

แมคคัลลัมขมวดคิ้วจนแทบจะผูกโบว์

“เขาให้สิ่งที่ผมต้องการมาตลอดชีวิต เขาเป็นคนดีมากเลยล่ะ” สวานซีหัวเราะลั่น “ตอนที่เขายื่นข้อมือขาวๆเปรอะเลือดมาให้ผมนะ ผมรู้สึกลิงโลดมากจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ ให้ตายเถอะ เลือดนั่นมันรสชาติดีมากจริงๆ”

“แกมันโรคจิต….”

“ผมจะถือว่านั่นเป็นคำชมนะ”

แมคคัลลัมก้าวถอยหลังทีละน้อย หมอนี่มันเกินเยียวยาแล้วว่ะ เขาต้องเปลี่ยนเรื่องก่อนที่สวานซีจะอธิบายความรักที่มีต่อโจนาธานกับแวมไพร์ไปมากกว่านี้

“จะว่าไป ปลิงนั่นอยู่รึเปล่า?”

“คุณเลิกเรียกเขาว่าปลิงสักทีเถอะ และไม่ เขายังไม่กลับมาเลย”

“ไปไหนน่ะ?”

“คุณจะอยากรู้ไปทำไม จะแย่งเขาไปจากผมเหรอ? รู้ไหมว่าความตายก็แยกเราจากกันไม่ได้เพราะเราทั้งคู่น่ะ….ตายแล้ว!”

แมคคัลลัมมองอีกฝ่ายเล่นมุกด้วยสายตาว่างเปล่า

“ซีเรียสจังน้า เห็นว่าเขาเอายาไปให้คนไข้แถวท่าเรือน่ะ อีก 1-2 ชั่วโมงคงกลับมา”

ท่าเรืออีกแล้ว ไปหาผู้หญิงคนนั้นรึไง.. เขาคิด

“เข้าใจแล้ว ไว้จะแวะมาหาใหม่นะ” แมคคัลลัมกำลังจะเดินออก แต่สวานซีก็ทักขึ้นมาพร้อมส่งยิ้มพิมพ์ใจให้

“ไหนๆก็อุตส่าห์มาทั้งที อยู่ช่วยที่นี่สักพักก่อนได้รึเปล่า”

.

ไม่น่ามาเลยเว้ยยยย แมคคัลลัมตะโกนในใจ

.

.
🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️

.

ตีสามกว่าแล้ว

.
โจนาธานหมดเวลาไปกับการวิ่งวนหาคนไข้ แถมบางคนยังทำตัวมีพิรุธอีก จนเขาต้องใช้ประสาทสัมผัสสุดเทพของแวมไพร์สืบหาความจริง ซึ่งบางคนก็เรียกสิ่งนี้ว่าสกิลสอดรู้สอดเห็น แต่ชื่อนี้มันไม่เท่เอาเสียเลย โจนาธานเดินกลับเข้ามาในเขตโรงพยาบาล ระหว่างทางก็แวะดูคนไข้ในเต็นท์และคุยกับพยาบาลคนอื่นไปด้วย ทันใดนั้นสายตาเขาก็ไปเห็นบางคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่มากที่สุด

“แมคคัลลัม?”

แมคคัลลัมที่นั่งหมดสภาพอยู่บนม้านั่งยกมือทักทายเขาช้าๆ โดยมีเธลม่า ท่านหญิงแห่งความมืด aka คนไข้นั่งข้างเขา

“หมอรี้ด มนุษย์นี่รอคุณอยู่แน่ะ”

“ฉันแค่นั่งพักหายใจเฉยๆ”

“แต่เมื่อกี๊นายเพิ่งบ่นกับฉันเองนะ” แมคคัลลัมตวัดสายตาน่ากลัวไปยังเธลม่า เธอแยกเขี้ยวใส่

“พวกมนุษย์ขี้โกหก” เธอว่า ก่อนจะเดินหายลับไปทางอื่น โจนาธานมองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง

“ว่าแต่… สรุปมาทำอะไรที่นี่” เขาถาม

“ใครสักคนบอกว่าถ้าแน่จริงก็มาหาสิ ฉันเลยมาไง”

“แล้ว?”

“แล้วก็โดนสวานซีใช้งานยกของจนปวดตัวไปหมดเลย” แมคคัลลัมขยับแขนแล้วทำหน้าเหยเก “โคตรเจ็บ ทำไมมันหนักกว่าเวลาไปฆ่าพวกสกัลอีกวะ” โจนาธานอยากจะสงสาร แต่ก็สมควรกับที่แมคคัลลัมเคยทำไว้แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าสวานซีจะแก้แค้นกลับด้วยวิธีนี้ เขากลั้นหัวเราะ

“อาจจะสะสมมาจากเวลานายไปล่าด้วยมั้ง ให้ฉันช่วยอะไรไหม?”

“ก็ดีนะ”

โจนาธานเลิกคิ้ว ถ้าไม่หนักจริงๆ คนอย่างแมคคัลลัมคงไม่ตอบตกลงง่ายๆแบบนี้หรอก เอ็ดการ์นะเอ็ดการ์ เขาคิด

“ตามมาสิ”

.

.

🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️

.

โชคดีที่เก็บห้องก่อนออกไปท่าเรือ

.

แมคคัลลัมกวาดสายตาไปรอบๆห้องอย่างละเอียดจนโจนาธานอยากจะยกมือปิดตาเขาซะ

“นั่งรอที่เตียงผ่าตัดไปก่อนก็ได้ ขอฉันเก็บของเดี๋ยวนึง” พูดเสร็จโจนาธานก็เดินข้ามไปวางอาวุธบนโต๊ะ แมคคัลลัมเดินตามเขามาด้วย ไม่เชื่อฟังหมอแบบนี้เป็นคนไข้ชั้นดีจริงๆ

“ของดีเยอะนะเนี่ย”

“สกัลกับลูกน้องนายรุกหนักขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็ต้องป้องกันตัวเองสิ”

“เป็นปลิงก็งี้แหละ”

“ฉันเลือกเกิดใหม่ได้ที่ไหนล่ะ จะว่าไป 2 อันนี้อันไหนดีกว่ากัน?” โจนาธานยกลิ่มไม้ในมือให้ดู หวังว่าแมคคัลลัมจะไม่รู้ว่าเขาขโมยอันหนึ่งมาจากพรีเวนหนุ่มผู้น่าสงสาร

“ซ้าย หรือก็คือขวาของนาย อีกอันทำมาจากไม้กากๆ” นักล่าแวมไพร์ตอบเรียบๆจนโจนาธานอดประหลาดใจไม่ได้ เขาหันไปหาอีกฝ่ายที่กำลังยืนพิงบางอย่างอยู่

“เชี่ยวชาญจังนะ ขอบใ–” โจนาธานผละออกจากโต๊ะพุ่งไปหาแมคคัลลัมแล้วใช้มือคว้าอีกฝ่ายจากด้านหลัง “อย่าพิง!!” เขาส่งเสียงดัง แมคคัลลัมทำหน้างงๆก่อนจะหันไปมองด้านหลังตามเขา

“ไม่เห็นลิซ่ารึไง! เดี๋ยวเธอก็ตกลงมาหรอก!!”

แมคคัลลัมหรี่ตามองต้นไม้สีเขียวสดใสที่วางอยู่บนเก้าอี้

“..แต่นั่นมันก็แค่ต้นไม้”

“ลิซ่าก็คือลิซ่า”

โจนาธานพูดด้วยความโมโห แต่คนตรงหน้ากลับกลอกตาใส่

“เออ โทษทีที่เผลอไปพิงต้นไม้ของนาย แต่ช่วยปล่อยทีเถอะ ตำแหน่งตอนนี้มันประหลาดชิบ”

“ตำแหน่งอะไร” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้แมคคัลลัมจนปลายจมูกแทบชนกัน ถ้าโกรธยิ่งกว่านี้คงกัดจมูกอีกฝ่ายขาดไปแล้ว แต่คนเป็นหมอไม่ควรทำแบบนั้น

แมคคัลลัมแหงนหน้าขึ้นหลบสายตาเขา น่าหงุดหงิด ทำไมหมอนี่มันน่าหงุดหงิดขั้นสุดขนาดนี้

“มือ”

“มือทำไม”

“เอว”

โจนาธานก้มมองตำแหน่งมือตัวเองถึงเพิ่งรู้ว่าตนคว้าเอวอีกฝ่ายไว้ แถมสภาพตอนนี้เหมือนกำลังกอดกันเลย

……

ประหลาดจริงด้วย

แต่พอเห็นคุณนักล่าแวมไพร์สุดแข็งแกร่งเป็นแบบนี้ก็รู้สึกสนุกดีแฮะ…..

“รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” โจนาธานแกล้งถามเสียงเบา มือยังค้างอยู่จุดเดิม แมคคัลลัมที่แหงนหน้าจนสุดก็เริ่มหันหน้าไปทางอื่นทั้งแบบนั้น

“เออ รังเกียจ”

“ไม่คิดจะเปลี่ยนใจจริงเหรอ เป็นเพื่อนกันก็ได้นะ”

“ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับแก”

มุมปากโจนาธานเริ่มกระตุก นั่นหมายถึงความอดทนกำลังจะหมดลง

“อยากเป็นมากกว่านั้นรึไง” เขาถามเสียงเบากว่าเดิม แมคคัลลัมค่อยๆเงยหน้าลงจนสายตากลับมาอยู่ระดับเดียวกับเขา นักล่าแวมไพร์แสยะยิ้ม

“ใช่.. อยากเป็นฝันที่เลวร้ายที่สุดของแก ฉันจะทำให้แกกลัวจนหลับไม่ลงเลย”

โจนาธานมองนิ่งๆ

“รู้เปล่าว่ามีวิธีอื่นที่ทำให้ไม่ได้นอนทั้งคืนอยู่นะ”

“วิธีไ– เดี๋ยว นี่แก!!”

แมคคัลลัมผลักเขาออกเต็มแรง ปฏิกิริยาแบบนี้ก็น่ารักดี ถ้าไม่ติดว่าคนทำคือชายร่างยักษ์ที่น่าจะฆ่าหมีได้ด้วยมือเปล่า

“หยุดพูดอะไรไร้สาระเดี๋ยวนี้ แล้วมา— โอ๊ย! รักษาฉันที” แมคคัลลัมเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด

“นายจินตนาการอะไรอีกล่ะ ฉันหมายถึงการอยู่เวร” โจนาธานถามด้วยน้ำเสียงปนขำ “เสียงหัวใจนายมันดังจนฉันได้ยินมาถึงนี่เลย คิดเรื่องแปลกๆอยู่ละสิ”

แมคคัลลัมรีบเบนสายตาไปทางอื่น “นายน่ะคิดมาก รี้ด มารักษาเร็วๆเถอะ”

“ก็ได้ ถ้านายพูดแบบนั้น ไปนั่งรอที่เตียงผ่าตัดเลย”

.

.

🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️🧛‍♂️

.

“ดีขึ้นรึยัง”

“อือ”

“ว่าแต่นายนี่ชีพจรเต้นเร็วผิดปกติบ่อยนะ”

“นายมีปัญหาอะไรกับร่างกายฉันนัก รี้ด”

“ก็ฉันเป็นหมอ”

โจนาธานยืนกอดอกมองแมคคัลลัมที่พอดีขึ้นก็เริ่มสำรวจห้องไปทั่ว ในมือกางสมุดบันทึกของตน (เล่มที่เขาแอบหยิบมาจากโรงละครของดอริส เฟลชเชอร์ พระเจ้า หมอนี่ไปเอาคืนมาตอนไหน) แล้วจดอะไรสักอย่างยิกๆเต็มไปหมด

“นั่นจดไปทำไมน่ะ”

“เผื่อได้ใช้” แมคคัลลัมยังคงไม่หยุดมือ เขาละกลัวอาการจะกลับมาทรุดอีกจริงๆ เป็นคนไข้ที่ดื้อชะมัด โจนาธานเดินเข้าไปดูใกล้ๆถึงเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังสเก็ตช์ภาพอยู่

“วาดรูปเก่งนี่”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่พอใช้งานได้”

“เมื่อก่อนน้องสาวฉันก็ชอบวาดรูป”

“น่าเสียดายแทนเธอนะ”

“อือ”

สิ้นเสียงตอบรับ โจนาธานก็เงียบไป แมคคัลลัมหันมามองเขาแล้วเอ่ยต่อ

“นายผิดจริงๆนี่ แต่ตอนนั้นคงขาดสติใช่ไหมล่ะ”

โจนาธานยังคงไม่พูดอะไร

“ฉันก็เกลียดนายล่ะนะ แต่ตอนนี้พอรู้แล้วว่านายคงไม่ได้ตั้งใจ”

“ใช่”

“โทษไอ้คนที่เปลี่ยนนายให้เป็นแบบนี้ดีกว่า กระชากมันขึ้นมาจากหลุมแล้วล้างแค้นให้เธอซะ”

“นายคิดแบบนั้นจริงเหรอ?”

“หรืออยากให้ฉันซ้ำเติม?”

โจนาธานหัวเราะ

“ไม่ๆ รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ขอบใจนะคุณนักล่าแวมไพร์”

“ไม่เป็นไร ไอ้ตัวดูดเลือด”

ถึงจะปากเสียตลอด แต่ก็รู้สึกได้ว่าหมอนี่หวังดีจริงๆแฮะ

“อืม…. เคยมีคนบอกไหมว่ามีมุมที่น่ารักเหมือนกัน”

“แกว่าอะไรนะ”

.

“ถ้าพูดซ้ำ หัวใจนายจะเต้นเร็วผิดปกติอีกรึเปล่าล่ะ?”

.

.

58969.

.

Tachycardia เนี่ย คืออาการที่หัวใจเต้นแรงเว่อผิดปกติค่ะ อาจจะเกิดจากออกกำลังกายหนัก เครียด หรือร่างกายผิดปกติบางอย่างก็ได้ แต่กับความรักนี่ไม่รู้หรอกนะ 555

แล้วก็ พอเป็นมุมหมอแล้วคูลเกินไป แต่งไม่สนุกเลยอะ…..

ตอนแต่งเนี่ยแอบลำบากใจอยู่ เพราะนี่อิงจาก canon หลัก และใน canon เป็นคู่จอนนี่เอลิซาเบธซึ่งเราเองก็โอเคกับคู่นี้ด้วย… แบบ อยู่ๆให้หมอรู้สึกอะไรกับกะหล่ำมันจะแปลกๆปะวะ ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการเปลี่ยนเป็น POV ของหล่ำแม่ง แต่อีกใจก็อยากให้หมอเห็นอีกด้านของหล่ำ /ทึ้งหัว เลยออกมาครึ่งๆกลางๆแบบนี้ เป็นจอนนี่คนคูลขี้แกล้งและขี้อ่อย

จะว่าไปพอเป็นมุมจอนนี่แล้วบรรยายท่าทางซึน เอ้ย เขินของกะหล่ำยากเหมือนกันแฮะ ส่วนตัวคิดว่าคนอย่างกะหล่ำเนี่ย ถ้าเขินคงต้องใช้กำลังแน่ๆ (…) แต่ถ้ากับผู้หญิงคงยืนตัวแข็งทื่อพูดอะไรไม่ออก คิดมุมไหนก็น่ารัก จอนนี่ก็คิดเหมือนเลาใช่มั้ยล่— เลยบรรยายให้จอนนี่รู้สึกเอ็นดูดีกว่า

เหมือนเดิมค่ะ (ก็อปจากเอนทรี่ก่อน) ไม่รู้จะมีใครหลงมาอ่านมั้ย ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าใครเล่นหรือสนใจเกมนี้ก็มาคุยกันได้

 

Leave a comment