555555555กุ55555555555เอา555555555อีก555555555แล้ว5555555555555555
Vampyr fiction
Pairing : Jonathan Reid/Geoffrey McCullum – I guess it’s McReid? เป็นแมครี้ดที่ไม่เกย์เท่าไหร่
Warning : **Spoiler / BL / One-shot / Fluff? / Mostly Geoffrey’s POV / ภาษาไม่สวย แต่พยายามไม่ให้เถื่อนเกินไป
.
.
1 ทุ่ม 15 นาที
.
ไอ้ปลิงนั่นกระโดดลงมาจากชั้น 2 ของโรงพยาบาล พอถึงพื้นก็ออกวิ่งไปตามถนน
ไม่เจ็บขาเลยเหรอ ดีจังวะ แมคคัลลัมคิดขณะเดินตามห่างๆ จริงๆเขาเองก็ทำได้เหมือนกัน แต่ถ้าทำบ่อยๆอาจได้เข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาลอับๆโดยมีโจนาธานถือเลื่อยผ่าเฝือกพลางยิ้มเยาะอยู่ปลายเตียง
ตกนรกยังมีความสุขกว่า แมคคัลลัมส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือกระชับผ้าพันคอให้แน่นขึ้น เขาควรหยุดคิดฟุ้งซ่านแล้วตามโจนาธานให้ทัน เพราะตอนนี้ระยะห่างเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ
“ไปไวจังวะ” แมคคัลลัมสบถ เขาเริ่มออกวิ่ง แต่ต้องพยายามทำเสียงให้เบา ไม่งั้นเป้าหมายจะรู้ตัว
อืม แต่เขาไม่รู้นี่นะว่าประสาทสัมผัสของแวมไพร์ดีมากขนาดไหน
.
🧛♂️🧛♂️🧛♂️🧛♂️🧛♂️🧛♂️
.
โจนาธานรู้สึกตลอดว่ามีคนตามอยู่
.
หมอนั่น…นักล่าแวมไพร์ที่เขาอุตส่าห์ปล่อยไป ยังกลับมาตามรังควานอีก โจนาธานคิดในใจว่ารู้งี้จับเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ดีกว่า อย่างน้อยก็คุยผ่านกระแสจิตได้ว่าต้องการอะไร แต่พอเป็นมนุษย์แล้วถ้าหยุดยืนคุยเนี่ย เผลอๆเขาอาจโดนอีกฝ่ายจ้วงท้องก่อนจะได้เอ่ยปากทักทายเสียอีก
ช่างเถอะ ปล่อยให้ตามไป เห็นคนสูง 6 ฟุต 4 เล่นซ่อนแอบตามสิ่งกีดขวางที่ยังไงก็หลบไม่มิดนี่ตลกไปอีกแบบ
ว่าแต่หมอนั่นตามเขาทำไมนะ หรือจะมาสืบ…?
งั้นก็สนุกสิ โจนาธานยิ้มมุมปาก เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้าโฉดขนาดไหน จนกระทั่งเด็กผู้หญิงร้านขายผลไม้เห็นเขาแล้วรีบวิ่งร้องไห้เข้าบ้าน
.
โจนาธานรู้สึกโหวงในใจนิดหน่อย
.
😾😾😾😾😾😾
.
แมคคัลลัมย่อตัวหลบอยู่ข้างแผงขายของ เขาเฝ้ามองไปยังที่หลบภัยที่ฌ็อน แฮมสตันเป็นคนดูแล
.
โจนาธานคุยอะไรไม่รู้กับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอใส่หมวก แมคคัลลัมเห็นไม่ชัดว่าเธอคือใครแต่เขารู้สึกได้ว่าสาวคนนั้นกำลังเขินอายอยู่
“ไอ้ปลิงเสน่ห์แรง” แมคคัลลัมเบ้ปาก คนตัวซีดสูงชะลูดแถมผอมเป็นเสาไฟฟ้าลืมทาสีมันน่าดึงดูดตรงไหน ดอริส เฟลชเชอร์ก็อีกคน เพราะฉลาดและแต่งตัวดีเหรอ? หรือเพราะผมอันเดอร์คัทกับเครานั่น? เฮ้ย เขาก็มี แถมมั่นใจมากว่าตัวเองเท่กว่าอีก แต่ทำไมไม่มีสาวคนไหนมายืนบิดตัวเขินใส่แบบนี้บ้าง
.
ไม่ได้อิจฉานะ สงสัยเฉยๆ
.
ระหว่างที่แอบดูอยู่ (หยิบแอปเปิลกินไปด้วยลูกหนึ่ง แต่วางเงินไว้ให้แล้ว) ก็มีเสียงคนพูดดังมาจากข้างหลัง
“ดูอะไรอยู่น่ะ?” เสียงนั้นถามขึ้น แมคคัลลัมหันไปมองแบบไม่สบอารมณ์ หมอนี่อีกแล้ว อิชา..? อิคาบ็อด? ทร็อ….ทำไมชื่อนามสกุลอ่านยากจังวะ คนตั้งให้หลับตาเลือกตัวอักษรเหรอ
“ไม่ต้องมายุ่ง” เขาสวนกลับ ไอ้หนุ่มชุดสูทแฟนซี (ที่บอกว่าตัวเองเป็น) นักล่าแวมไพร์พูดต่อ
“แต่นี่มันงานฉันที่ต้องปกป้องคนแถวนี้จากแวมไพร์นะ” พูดเสร็จ อิคาบ็อดก็ย่อตัวลงข้างๆแมคคัลลัม “หรือนายเจอเบาะแสอะไร?”
“ไม่มีไรเว้ย ฉันแค่มาเช็คเฉยๆว่าแผงนี่ผุรึเปล่า” แมคคัลลัมตอบแล้วตบเต็มแรงเข้าที่แผงไม้ เขาได้ยินเสียงไม้ลั่นดังเปรี๊ยะพร้อมกับรู้สึกถึงเสี้ยนเล็กๆที่ตำฝ่ามือ แต่ ณ จุดนี้ต้องคีพคูล
“งั้นจะทำตัวมีลับลมคมในทำไม” อิคาบ็อดส่ายหน้าสองสามทีก่อนจะลุกขึ้น เขาโบกมือเล็กน้อยให้แมคคัลลัมก่อนจะเดินไปทางโกดังต่อ
แมคคัลลัมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตัวปัญหาหายไปหนึ่ง เอาล่ะ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญสุดกลับมาอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้งแล้ว
.
ใช่ อยู่ตรงหน้า
.
โจนาธานยืนมองค้ำหัวเขาด้วยสีหน้าเอือมระอา เขาเพิ่งรู้สึกว่ามองจากมุมนี้ไอ้นี่มันเหมือนยักษ์ชัดๆ แมคคัลลัมรู้สึกโดนคุกคามแปลกๆเลยกระแอมนิดหน่อยแล้วยืนขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย
“มาทำอะไรที่นี่” โจนาธานถาม น้ำเสียงดูโมโห ซึ่งแมคคัลลัมไม่แปลกใจเท่าไร
“มาซื้อของ” เขาพูด พลางคว้าแอปเปิลอีกลูกจากแผงแล้วดีดเหรียญโชว์ 1 ที แต่เหมือนโจนาธานจะไม่เชื่อ เออ ถ้าเขาเป็นหมอนี่ก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน ทำไมโกหกไม่เก่งเอาซะเลยนะ
“แอบตามมาละสิ” โจนาธานถอนหายใจ “ฉันอุตส่าห์ไม่ยุ่งกับนายแล้วนะ ทำไมยังมารังควานอีก”
“อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยน่าไอ้ตัวดูดเลือด! ฉันแค่บังเอิญผ่านมา ไม่ได้ตามมาตั้งแต่โรงบาลหรืออะไรเลยสักนิด”
.
เวร เผลอหลุดปาก
.
โจนาธานสีหน้าอ่อนลง แมคคัลลัมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าแวมไพร์ตรงหน้าเขากำลังยิ้มอยู่ ไม่ได้ยิ้มแบบเย็นยะเยือกด้วย เป็นยิ้มที่ถ้าสาวๆได้รับคงอ่อนระทวย
.
แต่เขาเป็นผู้ชาย
.
อ้าว แล้วไอ้ที่รู้สึกแปลกๆในอกนี่มันอะไรวะ
.
“หัวใจนายเต้นเร็วขึ้น” โจนาธานพูดพลางกลั้นหัวเราะ แต่แมคคัลลัมไม่ตลกด้วยหรอกนะ เขากำลังจะสวนกลับ แต่คนตรงหน้าก็พูดต่อ “การที่ฉันโผล่มาไม่ทันตั้งตัวมันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“หา? ว่าไงนะ…”
“เอ หรือเพราะเสี้ยนที่มือทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานหนักกันนะ” โจนาธานพูดไปขำไป หยาบคายมาก ไม่เคยมีใครกล้าล้อเขานอกจากคาร์ลกับเอียน และจะไม่มีอีกต่อไป
“หุบปากไอ้ปลิงโง่ แกไม่รู้อะไรหรอก!” แมคคัลลัมพูดกระชากเสียง แต่โจนาธานไม่ตกใจใดๆ เขาแค่ยักคิ้วข้างหนึ่งขึ้นเท่านั้น
“งั้นบอกมาสิว่าฉันควรรู้อะไร”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ วันนี้ฉันจะปล่อยไปก่อน ไสหัวไปซะ” แมคคัลลัมตัดบท แต่แวมไพร์ตรงหน้าดูจะไม่ไปง่ายๆ
“อือฮึ แต่ให้ฉันช่วยเอาเสี้ยนออกจากมือให้ก่อนไปก็ได้นะ”
ไม่! ต้อง! มา! ยุ่ง! แมคคัลลัมตะโกนในใจ แต่เขาก็ยื่นมือไปให้โจนาธานอย่างว่าง่ายจนสงสัยการกระทำของตัวเอง โจนาธานดึงมือเขาไปดูใกล้ๆ แมคคัลลัมสะดุ้งนิดหน่อย ไม่ใช่เพราะมือของโจนาธานเย็นหรอกนะ
“ชิ้นใหญ่แฮะ วันหลังอย่าไปตบแผงไม้ใครอีกนะ” โจนาธานพูด ก่อนจะค่อยๆดึงเศษไม้ออกมา มันเจ็บนิดหน่อย แต่เจ็บสุดตรงคนที่คนช่วยดันเป็นไอ้ปลิงที่เขาเหม็นหน้านี่แหละ
“ขอบใจ” แมคคัลลัมพูดเบาๆ โจนาธานละสายตาจากมือมามองหน้าเขา
“นายว่าอะไรนะ?”
“ฉันบอกว่าขอบใจ”
“คนอย่างแมคคัลลัมกำลังขอบใจฉัน? ดวงอาทิตย์ได้ขึ้นทางทิศตะวันตกแหง”
“ทำไม แกคิดว่าฉันพูดอะไรดีๆไม่เป็นงั้นสิ?”
โจนาธานยิ้มนิดๆ มาอีกแล้วรอยยิ้มแบบนี้ เขาไม่ชอบเลย
“ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ”
“ฉันเกลียดแก ไอ้ปลิง”
“นี่แหละถึงจะเป็นแมคคัลลัมที่ฉันรู้จัก”
แมคคัลลัมมองหน้าโจนาธาน ถึงไอ้หมอนี่จะตายไปแล้ว ตัวก็ซีดเซียว แต่เวลาหัวเราะกลับดูเหมือนมนุษย์ยิ่งกว่าตัวเขาอีก แมคคัลลัมเบนสายตาไปทางอื่น ถ้าโจนาธานไม่ใช่แวมไพร์ พวกเขาสองคนอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ แต่จากสถานะตอนนี้….
“พูดพอใจแล้วก็ปล่อยมือฉันสิ” เขาว่า โจนาธานชะงักไปแว้บหนึ่งถึงเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังจับมืออีกฝ่ายอยู่ เขาค่อยๆปล่อยออก
“โทษที งั้น…ไว้เจอกัน?”
“คราวหน้าแกไม่รอดแน่…ไอ้ปลิง”
โจนาธานเงียบไป ราวกับกำลังใช้ความคิดว่าจะตอบอะไรกลับไปดี ผ่านไปสักพักเขาก็ค่อยๆยิ้มออกมา แต่เป็นรอยยิ้มที่เหมือนนักวิทยาศาสตร์กำลังมองหนูทดลองสีขาวในมือ
.
“ห้องฉันอยู่ชั้น 2 สุดโถงทางเดินโรงบาล ถ้าแน่จริงก็มาเลย”
.
ทำลงไปแล้ว 55555555555555555555555555555555 ด้อมเล็กมากจนต้องทำทุกอย่างเองหมดเลยเพราะไม่มีจะเสพ 55555555555555
พล็อต… ไม่มี โทนเรื่อง… ไม่มี คิดไรออกก็พิมพ์ 5555555555555555 แต่ที่วางไว้คือคงอยู่ระหว่างช่วงหลังบอสไฟท์กะหล่ำ กับก่อนมีตติ้งที่สุสาน กะหล่ำเลยดูวีนๆอยู่ อยากลองเขียนเองบ้างว่าอะไรทำให้สองคนนี้สนิทกันขึ้น แต่ออกมาเกย์เฉย เออ เอาเถอะ เกย์แล้วต้องเกย์ให้สุด
ไม่รู้จะมีใครหลงมาอ่านมั้ย ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าใครเล่นหรือสนใจเกมนี้ก็มาคุยกันได้
[…] ตอนต่อจากเอนทรี่ที่แล้ว […]
นี่เพิ่งหลงเข้ามาเจอค่ะ 555 แอบจิ้นคู่นี้เหมือนกันนะ เราเจอฟิคคู่นี้เยอะอยู่เหมือนกันค่ะแต่เป็นภาษาอังกฤษสนุกดีลองอ่านดูได้น้า55555
เย้! ฟิคอังกฤษเคยอ่านใน ao3 อยู่ค่ะแต่ก็นานมากแล้ว หาที่ถูกใจยาก 555 ถ้ามีเรื่องใหม่น่าสนใจแวะมาบอกเราได้นะคะ—